สวัสดีครับพี่น้องแฟนๆแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดทุกท่าน คงจะเงียบเหงากันน่าดูหลังจากที่ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกปิดฤดูกาลลงไป...ช่วงว่างเว้นจากบอลลีกเช่นนี้ก็อย่าลืมส่งกำลังใจให้เหล่านักเตะปีศาจเเดงที่กำลังอยู่ในภารกิจรับใช้ทีมชาติอยู่หลาย
นักเตะของเราหลายคนนะครับที่ทำหน้าที่ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมไม่ว่าจะเป็น เจสซี่ ลินการ์ด กับทีมชาติอังกฤษยู 20 , อันเดรส เปร์ไรร่า กับการคว้ารองแชมป์ฟุตโลกยู 20 ร่วมกับทีมชาติบราซิล นอกจากนี้ยังมี อังเคล ดิ มาเรีย , มาร์กอส โรโฮ ที่กำลังปฎบัติภารกิจล่าแชมป์โคปาอเมริกากับทีมชาติอาร์เจนติน่าอยู่ในตอนนี้
วันนี้เราจะมาพูดถึงเรื่องใหม่ๆกันบ้างนะครับสำหรับภารกิจทวงแชมป์พรีเมียร์กลับรังโอลด์ แทรฟฟอร์ดในปีนี้ ซึ่งเราจะมาดูกันว่า 5 ปัจจัยหลักที่จะทำให้ปีศาจเเดงกลับมาทวงความยิ่งใหญ่อีกครั้งมีอะไรบ้าง
1. เงิน !!
ปฎิเสธไม่ได้เลยว่าโลกฟุตบอลทุกวันนี้มันกลายเป็นธุรกิจไปแล้ว และแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเองก็ช่ำชองและทำได้ดีเสียด้วยหลังจากมีการเปิดเผยผลประกอบการของ ยูไนเต็ดที่บริหารงานโดย "ลอร์ดเอ็ด" เอ็ด วู้ดเวิร์ด ที่พาทีมฟันรายได้ไปถึง 1 พันล้านปอนด์ พร้อมทั้งคว้าตำแหน่งแชมป์สโมสรฟุตบอลที่มีรายรับมากที่สุดในโลกในเวลานี้
เมื่อสโมสรฟันกำไรบานเบอะแบบนี้นั่นหมายความว่า หลุยส์ ฟาน กัล กุนซือจอมอินดี้มีงบประมาณให้ช็อปแบบเหลือๆ หลังจากที่มีข่าวว่าทางบอร์ดบริหารพร้อมอนุมัติเงินถึง 150 ล้านปอนด์ สำหรับการเสริมทัพเพื่อทวงความยิ่งใหญ่ในปีนี้
2. ซื้อเฉพาะของเเท้เท่านั้น!
มีเงินอย่างเดียวอาจไม่พอ เพราะถ้าหากมัวทุ่มเงินกับเหล่านักเตะที่ไม่ได้คุณภาพมันก็ไม่อาจช่วยให้ทีมมีพัฒนาการที่ดีได้ อย่างที่ทุกท่านทราบกัน ยูไนเต็ด ปิดดีล เมมฟิส เดอปาย ด้วยความรวดเร็วหลังจากที่ยอดตัวรุกจากพีเอสวี โชว์ฟอร์มโหดด้วยการคว้ารางวัลดาวซัลโวสูงสุดของลีกดัตช์รวมถึงรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมอีกด้วย
เท่านั้นยังไม่พอ ยูไนเต็ด ยังคงมีข่าวกับนักเตะระดับเกรดเอมากมาย ลองนับๆดูเฉพาะตัวที่มีข่าวหนักๆก็มี บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ กองกลางจอมทัพของบาเยิร์น มิวนิค , นิโคลัส โอตาเมนดี้ แนวรับจอมโหดดีกรีรองแชมป์โลกของบาเลนเซีย , โรแบร์โต้ เฟอร์มิโน่ เพลย์เมคเกอร์ตัวเก่งของทีมชาติบราซิลและสโมสรฮอฟเฟ่นไฮม์ ซึ่งทั้ง 3 คนได้พิสูจน์ฝีเท้าในระดับสูงมาแล้วทั้งหมด
3. 2 ปีไม่มีข้ออ้าง ฟาน กัล จะชัดเจนในเเนวทางการทำทีมมากขึ้น
ไม่มีเวลาให้ หลยส์ ฟาน กัล บิ๊กบอสชาวดัตช์ลองทีมอีกแล้ว แม้ว่าปีแรกเขาจะพาปีศาจเเดงคว้าอันดับ 4 ของตารางพร้อมทั้งตั๋วไปเล่นฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในฤดูกาลหน้าตามเป้าหมาย แต่ทว่าทีมใหญ่อย่างยูไนเต็ดไม่อาจย่ำอยู่กับที่ได้อีกต่อไปหากคิดจะทวงความยิ่งใหญ่ในฤดูกาลหน้า
ทั้งหมดทั้งมวลนี้เป็นเหตุผลที่จะทำให้ ฟาน กัล ต้องเน้นในทุกๆรายละเอียดหลังจากที่เขาได้เห็นจุดอ่อนของทีมมาเเล้วในฤดูกาลที่ผ่านมา งานของเขาในฤดูกาลที่กำลังจะมาถึงคือลบจุดอ่อนที่มีอยู่ออกไปให้หมด เพื่อเพิ่มโอกาสประสบความสำเร็จตามที่บอร์ดบริหารได้คาดหวังไว้
4. นักเตะผีจะเข้าใจปรัชญาฟุตบอลของ ฟาน กัล มากขึ้น
อย่างทีได้เห็นกันในช่วงท้ายฤดูกาลที่แล้วว่า แมนฯ ยูไนเต็ด เริ่มจะแสดงให้เห็นรูปแบบการเล่นที่ชัดเจนมากขึ้น พวกเขาใช้บอลสั้นสลับยาวในการโจมตีคู่แข่งโดย ฟาน กัล จะเน้นไปที่การครองบอลเป็นพิเศษ ... อย่างไรก็ตามปัญหาในเรื่องการเข้าทำและการจบสกอร์ยังคงเป็นปัญหาของทัพปีศาจเเดงอยู่ และนักเตะในทีมมีความเข้าใจเกมและการเข้าทำมากกว่านี้ ก็จะทำให้ ยูไนเต็ด มีโอกาสไม่น้อยที่จะแสดงพัฒนาการของทีมให้ได้เห็นกัน
5. แพสชั่น(ความกระหาย) !
แน่นอนว่าข้อนี้เป็นส่วนประกอบที่สำคัญในลำดับต้นๆสำหรับการกลับมาสร้างความยิ่งใหญ่อีกครั้ง 2 ปีเต็มแล้วนะครับที่ ยูไนเต็ด ไร้ถ้วยแชมป์มาประดับตู้โชว์ของสโมสร ซึ่งนั่นจะทำให้เหล่านักเตะของปีศาจเเดงนั้นกระหายและโหยหาความสำเร็จกันอย่างเต็มที่
และเมื่อความกระหายกลับมาพร้อมทั้งยังผนวกกับคุณภาพของนักเตะใหม่ที่เข้ามาเสรืมทัพและความเข้าใจเกมของนักเตะในทีมที่มากขึ้น ทั้งหมดทั้งมวลย่อมเป็นส่วนผสมที่ลงตัวเสียจริงๆ ... จับตาดูฤดูกาลที่กำลังจะมาถึงให้ดีเถิดครับทุกท่าน ผมเชื่อเหลือเกินว่า ปีศาจเเดง จะกลับมาด้วยความยิ่งใหญ่อย่างแน่นอน