เกมเเดงเดือดไฟท์แรกของฤดูกาล เป็นแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดที่ได้เล่นในบ้านก่อน ซึ่งหลุยส์ ฟาน กัล ต้องพบกับปัญหาเมื่อเวย์น รูนี่ย์ กองหน้ากัปตันทีมเจ็บก่อนแข่งจนไม่สามารถลงสนามได้
11 ตัวจริงของยูไนเต็ดได้แก่ เด เคอา , ดาร์เมี่ยน , สมอลลิ่ง , บลินด์ , ชอว์ , ชไวน์สไตเกอร์ , คาร์ริค , มาต้า , เอร์เรร่า , เดอปาย และ เฟลไลนี่
รูปเกมในครึ่งแรกต้องยอมรับว่าทั้งสองทีมเล่นกันได้ต่ำกว่ามาตรฐานแบบสุดๆ จ่ายบอลเสียกันทั้งคู่ถึงแม้ว่า ยูไนเต็ด จะครองบอลได้มากกว่าก็ตาม
เมมฟิส เดอปาย คือนักเตะที่เล่นได้อย่างน่าผิดหวังอีกครั้ง การออกบอลช้า และ จ่ายบอลเสีย ยังคงเป็นปัญหาของเขาเช่นเคย แต่อย่างไรก็ตามในครึ่งแรกนั้นหาผู้เล่นที่พูดเต็มปากว่า "เล่นดี" แทบไม่ได้เลย จึงทำให้จบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์ 0-0 ด้วยรูปเกมที่จืดชืดสุดๆ
ครึ่งหลัง หลุยส์ ฟาน กัล ไม่รอช้าจัด แอชลี่ย์ ยัง ลงมาแทน เดอปาย ในช่วงพักครึ่งในทันที ... ไม่ทันไร จารย์ยัง แผลงฤทธิ์ด้วยการเรียกฟาวล์เยื้องมาทางมุมธงฝั่งซ้ายและเป็นจุดกำเนิดของประตูที่เปลีย่นรูปเกมนี้ที่น่าเบื่อตลอดครึ่งแรกในทันที
จังหวะฟรีคิกดังกล่าว ยูไนเต็ด มาอย่างเหนือเมฆ โดย ฆวน มาต้า เล่นลูกสูตไหลบอลย้อนออกมานอกกรอบและเป็น ดาลี่ย์ บลินด์ ที่วิ่งเข้ามาแปเต็มๆบอลเสียบสามเหลี่ยมไปอย่างสวยงาม ให้ยูไนเต็ดออกนำไป 1-0
หลังจากที่ออกนำ ยูไนเต็ด ดูจะผ่อนเกมลงไปและทำให้ ลิเวอร์พูล ได้โอกาสบุกมากขึ้นแต่ 4 แนวรับ และ เด เคอา ก็ช่วยกันเซฟชีวิตได้ในหลายๆจังหวะ
หงส์ บุกอยู่นานแต่ขาดความเฉียบคมจนทำให้ ยูไนเต็ด ได้โอกาสจากการแทงบอลทะลุช่องของ คาร์ริค ให้ เอร์เรร่า หลุดเข้าไปโดน โจ โกเมซ เสียบล้มลงไป ผู้ตัดสินไมเคิล โอลิเวอร์ ไม่รอช้าชี้ให้เป็นจุดโทษและให้ใบเหลืองแก่ โกเมซ ซึ่งจากจังหวะจุดโทษ เอร์เรร่า รับบทบาทมือสังหารและซัดเต็มข้อเสยคานเข้าไปอย่างเฉียบขาดให้ ยูไนเต็ด ออกนำห่างไป 2-0
รูปเกมดูผ่อนคลายขึ้นหลังจากออกนำไป 2-0 แต่แล้วแฟนผีก็ต้องตาตั้งเมื่อเบนเตเก้ซัดโอเวอร์เฮดคิกบอลเสียบสามเหลี่ยมให้ ลิเวอร์พูล ตีไข่แตกมาเป็น 1-2
เหมือนโมเมนตั้มจะพลิกกลับมาเป็นของฝั่งหงส์แดงแล้วแท้ๆ แต่ อองโตนี่ มาร์กซิอัล ดาวรุ่ง 19 ปีที่ซื้อมาด้วยค่าตัวกว่า 36 ล้านปอนด์ รับบอลจากจารย์ยังก่อนโซโล่เดียวเข้าไปแปสวนตัว มินโญเล่ต์ ให้ยูไนเต็ดออกนำห่างเป็น 3-1 อย่างสวยงาม
นับเป็นการปิดเกมที่เฉียบขาด เพราะหากยูไนเต็ดไม่ได้ประตูนี้ก็ไม่แน่ว่าผลการแข่งขันจะออกมาเป็นอย่างไร!! แต่ท้ายที่สุดแล้วผู้ตัดสินก็เป่าหมดเวลา 90 นาที ยูไนเต็ด คว้าชัยไปก่อนในศึกเเดงเดือดไฟท์แรกด้วยสกอร์ 3-1 !!
ความคิดเห็นของทีมงาน Glory-manutd.com
ครึ่งแรกต้องบอกว่าน่าผิดหวังจริงๆ เราไม่ได้เห็นการเซ็ตบอลใดๆทั้งสิ้นและแทบไม่มีจังหวะให้ได้ลุ้นประตูเมื่อเฟลไลนี่ที่เล่นหน้าเป้าเก็บบอลไม่ได้ แต่ที่น่าเป็นห่วงคือ เมมฟิส เดอปาย ที่ยังทำอะไรได้ไม่เป็นชิ้นเป็นอันเลยในเกมลีก ที่กลัวคือหากเขายังโชว์ฟอร์มไม่ออกและสื่อยังคงกดดันต่อไปเขาอาจจะสูญเสียความมั่นใจจนออกทะเลไปมากกว่านี้
มาถึงส่วนครึ่งหลังกันบ้าง คงต้องบอกว่า ฟาน กัล เปลี่ยน อ.ยัง ลงมาได้ถูกที่ถูกเวลาทำให้เกมรุกดูวูบวาบกว่าครึ่งแรกเยอะ! แน่นอนว่า จารย์ยัง คือจุดเริ่มต้นของประตูแรกอีกด้วย งานนี้ก็ต้องยกเครดิตให้ฟาน กัล ที่คิดไวทำไวจนเป็นจุดเปลี่ยนของเกมนี้
มองไปที่แนวรับเกมนี้แบ็คโฟร์ช่วยกันสกัดช่วยกันป้องกันได้ดี โดยเฉพาะแบ็ค 2 ข้างที่ยอดเยี่ยมจริงๆทั้งการซ้อนบอลจังหวะสุดท้ายของดาร์เมี่ยน และ ชอว์ ที่ขึ้นสุดลงสุดทั้งเกม ส่วนคู่เซ็นเตอร์ไม่ต้องพูดถึง สมอลลิ่ง แม้จะไม่เด่นแต่ก็ไม่มีข้อผิดพลาดใหญ่ๆให้เห็น ส่วน บลินด์ นอกจากจะช่วยเซฟให้ทีมไม่โดนตีเสมอเขายังเป็นคนซัดประตูแรกให้กับทีมอีกต่างหาก
ส่วนไฮไลต์สำคัญ นั่นจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก อองโตนี่ มาร์กซิอัล บุรุษผู้มากับเครื่องหมายคำถาม ซึ่งคงไม่ต้องพูดอะไรมากในรูปเกมที่บอลมาไม่ค่อยถึงเขาเท่าไหร่ แต่เมื่อได้โอกาสไอ้หนูนี่จัดการโซโล่สังหารเข้าไปอย่างเฉียบขาดจนต้องลุกปรบมือให้กันเลยทีเดียว
สรุปแล้วเกมนี้ผลสกอร์บอกทุกอย่าง ยูไนเต็ดเหนือกว่าทั้งเกมรุกและเกมรับ เป็นการจบเกมที่เฉียบขาดและจะเป็นกำลังใจให้ทีมทำผลงานให้ดีในเกมต่อๆไป