แฟนๆของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หลายๆคนคงคุ้นเคยกับชื่อของ ราเวล มอร์ริสัน อดีตนักเตะดาวรุ่งที่น่าจับตามองของปีศาจเเดงที่ย้ายออกออกจากถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด ในปี 2012

      มอร์ริสัน ย้ายออกไปเพราะมีความคิดเห็นไม่ตรงกับ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ที่เป็นผู้จัดการทีมในเวลานั้น ... ในตอนที่เขาอายุ 18 ปีไอหนุ่มคนนี้ถือว่าเป็นดาวรุ่งที่มีฝีมือเหนือนักเตะรุ่นเดียวกัน และได้รับการยกย่องจากสื่อว่าจะก้าวขึ้นมาเป็นนักเตะตัวหลักของ ยูไนเต็ด ในอนาคต

     ด้วยแรงอวยจากสื่อและแฟนบอลทำให้เขาคิดว่าถึงเวลาเเล้วที่เขาควรจะได้รับโอกาสจากเฟอร์กี้ เพื่อก้าวขึ้นมาเล่นชุดใหญ่ แต่ความเห็นของบรมกุนซือกลับตรงกันข้ามนั่นจึงทำให้ฟางเส้นสุดท้ายระหว่างเขากับเฟอร์กี้ขาดสะบั้นลงไป

      เขาเริ่มมีพฤติกรรมที่ออกนอกลู่นอกทาง และการงัดข้อกับเฟอร์กี้ทำให้ สโมสรตัดสินใจไม่ต่อสัญญาเขาออกไปและปล่อยเขาเป็นนักเตะฟรีเอเย่นต์ ก่อนที่ มอร์ริสัน จะย้ายไปอยู่กับ เวสต์แฮม ที่เวลานั้นยังอยู่ในระดับเดอะ แชมเปี้ยนส์ชิพ

      แม้ในช่วงแรกเขาจะได้รับโอกาสลงสนามให้กับ "ขุนค้อน" อย่างต่อเนื่องและทำผลงานได้น่าพอใจ แต่ทว่าด้วยปัญหาเรื่องพฤติกรรมเรื่องเก่าที่เขาแก้ไม่ได้ทำให้ตลอดเวลา 3 ปีในถิ่น "อัพตัน พาร์ค" เขาได้ลงสนามเพียง 18 เกมและยิงไป 3 ประตูเท่านั้น

     เขาถูกเวสต์แฮมปล่อยยืมตัวเรื่อยมาไม่ว่าจะกับ เบอร์มิ่งแฮม(27 เกม 3 ประตู) , ควีนส์ปาร์ค เรนเจอร์ส (15 เกม 6 ประตู) , คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ (7 เกม 0 ประตู) ซึ่งเห็นได้ชัดว่าเขาเริ่มได้รับโอกาสลงสนามน้อยลงเรือยๆแม้ทีมที่กล่าวมาจะไม่ได้อยู่บนลีกสูงสุดก็ตาม

      ครบสัญญา 3 ปี กัป เวสต์แฮม เขาก็ถูกปล่อยตัวฟรีอีกครั้ง เหมือนชีวิตของเขาจะดีขึ้นเมื่อ ลาซิโอ้ ทีมดังจากกัลโช่ เซเรีย ตัดสินใจเซ็นสัญญาเขาไปร่วมทีมช่วงตลาดซื้อขายเดือนมกราคมปีนี้ แต่สถานการณ์กลับ กลับตาลปัตร ตลอดเวลา 10 เดือนเขามีโอกาสลงสนามให้ อินทรีฟ้าขาวเพียง 2 เกมเท่านั้น

      นี่เหมือนจะมาถึงจุดตกต่ำของชีวิตการเป็นนักฟุตบอลของเขาในวัยเพียงแค่ 22 ปีเท่านั้น ... ซึ่งล่าสุดเจ้าตัวก็ให้สัมภาษณ์กับ "เดอะ ซัน" ถึงเรื่องราวความผิดพลาดในอดีตของเขาว่า

      "ผมขอกล่าวด้วยความสัตย์จริงเกี่ยวกับเรื่องนี้ ... เวลาที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นั้น เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ให้โอกาสผมหลายครั้งมากๆ ผมไม่คิดว่าพวกเขาจะให้โอกาสนักเตะคนไหนๆเท่ากับผมอีกเเล้ว ตอนนี้ผมคงทำได้แค่เพียงโทษตัวเองและผมคงไม่มองหาข้อแก้ตัวใดๆทั้งสิ้น "

      "ผมไม่ได้มีปัญหา ตอนนั้นผมแค่เข้าใจผิดเท่านั้น เมื่อผู้คนนึกถึงชื่อผมพวกเขาจะนึกถึงเด็กหนุ่มที่มีปัญหา สิ่งนั้นเปรียบเสมือนป้ายตีตราคำจำกัดความของผมไปเสียเเล้ว"

      นี่แหละครับที่เขาว่ากันว่าในช่วงขวบปีแห่งวัยรุ่น เรามักจะคิดว่าเรารู้ดีในทุกๆเรื่อง จนมองข้ามคำเตือนหรือคำแนะนำของผู้คนที่เคยผ่านเรื่องนี้มาก่อน ... อย่างไรก็ตามในฐานะอดีตผู้เล่นของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ผมเองก็ยังหวังให้เขาโชคดีและกลับมาทำผลงานให้ดีได้อีกครั้ง เขาอายุแค่ 22 ปีเท่านั้น หนทางยังอีกยาวไกล แม้เขาจะเคยตัดสินใจผิดพลาดมาก่อน แต่อย่างน้อยตอนนี้เขาก็รู้เเล้วว่าเขาได้พลาดอะไรไป ณ ตอนนี้เขาคงรู้ซึ้งเเล้วว่าจะแก้ไขเรื่องนี้ให้ถูกต้องได้อย่างไร