ป้ายว่าง

สกุ๊ปพิเศษ : "คริส สมอลลิ่ง "เดอะ คิง" ที่กลับมาจากศูนย์"

lnwyok69 2015-10-10 01:11:07 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, คริส สมอลลิ่ง
สกุ๊ปพิเศษ : คริส สมอลลิ่ง เดอะ คิง ที่กลับมาจากศูนย์


      แทบไม่น่าเชื่อสายตากันจริงๆนะครับสำหรับฟอร์มการเล่นของ "คิง ไมค์" หรือ คริส สมอลลิ่ง เซ็นเตอร์ฮาล์ฟตัวเก่งของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในฤดูกาลนี้

      คิง ไมค์ ก้าวขึ้นมาเป็นหัวใจในเกมรับของทีมได้อย่างน่าชื่นชม เรียกได้ว่าหลายเกมในฤดูกาลนี้หากไม่มีเขาเเล้วล่ะก็ แนวรับของยูไนเต็ดอาจจะเสียประตูให้เห็นมากกว่านี้ก็เป็นได้

      สมอลลิ่งนั้นย้ายมาอยู่กับ ยูไนเต็ด ตั้งแต่ในปี 2010 โดยเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เป็นคนลากตัวเขามาจาก ฟูแล่ม โดยไม่มีการเปิดเผยค่าตัว แต่อย่างไรก็ตามก็มีการซุบซิบกันว่าราคาค่างวดของเขานั้นสูงถึง 10 ล้านปอนด์เลยทีเดียว

      ในช่วงแรกๆนั้นเขามักจะได้ลงมาในเกมเล็กๆอย่าง เอฟเอ คัพ หรือ คาร์ลิ่ง คัพ โดยจะมีบทบาทในตำแหน่งเซ็นเตอร์ฮาล์ฟยามที่ ริโอ เฟอร์ดินานด์ ไม่ได้ลงสนามซึ่งในขวบปีแรก สมอลลิ่ง มีผลงานที่เข้าขั้นดีเกินคาดจากการลงสนาม 24 เกมและทำไป 1 ประตู

 

Smalling handled Kane expertly again

 

      แม้จะมีเเววดีแต่หลังจากนั้นฟอร์มการเล่นของเขาก็ไม่พัฒนาเท่าที่ควร เหตุผลมาจากอาการบาดเจ็บที่เขามักจะเจ็บเล็กเจ็บน้อยอยู่เรื่อยมา รวมถึงการไม่มีคู่หูที่รู้ทางรู้ใจกัน ช่วงเวลาในปี 2012-2015 เขาได้เล่นคู่กับเซ็นเตอร์ฮาล์ฟคนอื่นๆในทีมทั้ง วิดิช , เฟอร์ดินานด์ , ฟิล โจนส์ , มาร์กอส โรโฮ , จอนนี่ อีแวนส์ ทั้งหมดนี้อาจเป็นเหตุผลที่เขายังไม่สามารถสร้างความแน่นอนและความคงเส้นคงวาให้กับตัวเองได้

      ฟอร์มของ สมอลลิ่ง ยังคง 3 วันดี 4 วันไข้อยู่เรื่อยมา จนกระทั่งมาถึงจุดที่แฟนๆและ ฟาน กัล ทนไม่ไหวถึงกับต้องวิจารณ์การเล่นของเขาออกสื่อเลยทีเดียว เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในฤดูกาล 2014/15 ที่ สมอลลิ่ง พลาดเสียค่าโง่จนโดน 2 เหลืองเป็น 1 เเดงและทำให้ทีมพ่ายแพ้ต่อ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไปในที่สุด

      เขาถูกตราหน้าให้เป็นเเพะรับบาปในเกมนี้ และโดนก่นด่าจากแฟนในโลกโซเชียลอย่างถล่มทลาย ไม่เว้นแม่แต่ฟาน กัล ที่ให้สัมภาษณ์หลังเกมนี้ว่า

      "ในเกมดาร์บี้แมตช์คุณต้องระมัดระวังให้มากกว่านี้ ... 2 ใบเหลืองนั้นมันเป็นอะไรที่โง่มากๆ คุณไม่สามารถรับ 2 ใบเหลืองในเบบเดียวกับเขาได้หรอก มันเป็นอะไรที่ไม่ฉลาดเลย ผมหมดอารมณ์จะพูดจริงๆ"

      แม้ว่ามรสุมจะกระหน่ำใส่เขาแบบไม่ให้ได้โงหัว แต่ทว่านับจาก ดาร์บี้ แมตช์ ที่่น่าอับอายจนวันนี้ นี่ก็ผ่านมาเเล้ว 1 ปีพอดิบพอดี เราได้เห็นความใจสู้และความแข็งแกร่งของเขาทั้งสภาพร่างกายและจิตใจ

 

 

      เขาแทบไม่เคยเล่นพลาดให้เห็น การเขาสกัดที่โคตรแม่นยำในจังหวะสำคัญ หรือแม้กระทั่งการทำประตูที่ก็แสดงให้เห็นมาเเล้วในเกมกับ โวล์ฟส์บวร์ก ซึ่งไม่ใช่แค่แฟนบอลที่ชื่นชมการพัฒนาของเขาเท่านั้น ริโอ เฟอร์ดินานด์ อาจารย์ของสมอลลิ่งก็กล่าวชมลูกศิษย์ของเขาว่า

      "นี่จะเป็นฤดูกาลที่ยิ่งใหญ่ของเขา เขาเพียงตั้งหน้าตั้งตาเล่นเกมรับและเขี่ยคู่ต่อสู้ให้พ้นทางเท่านั้น รูปแบบการเล่นของเขาดำเนินไปในทางที่ถูกต้อง และเขาก้าวขึ้นมาเป็นกองหลังเบอร์ 1 ของทีมเข้าให้เเล้วล่ะ"

 

 

      ทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าในยามที่เราประสบพบเจอเรื่องร้ายๆ ในวันที่โลกทั้งใบหันหลังให้กับเรา สิ่งที่เราควรเชื่อมั่นที่สุดคือ "ตนเอง" และนำเรื่องที่ผิดพลาดมาแก้ให้ถูกต้อง ... ซึ่งถ้าหากคุณทำได้ โลกใบนี้ก็พร้อมจะให้โอกาสและหันกลับมามองคุณใหม่อีกครั้งนึง

      นี่แหละครับเรื่องราวของ คริส สมอลลิ่ง ยอดนักสู้ตัวจริง!!

Ads



Related Post