หลังจากเกมหนาวเหน็บสภาพอากาศติดลบ ที่ มอสโคว์ ประเทศรัสเซีย พลพรรคปีศาจเเดง บุกไปคว้า 1 แต้มจาก ซีเอสเคเอ มอสโคว์ เราได้เห็นอะไรบ้างจากเกมๆนี้
1. แผน บี ของฟาน กัล
เชื่อว่ามีแฟนบอลไม่กี่คนหรอกที่ดูรูปเกมในครึ่งแรกแล้วคิดว่า ฟาน กัล จะส่ง เฟลไลนี่ ลงมาในครึ่งหลัง เพราะรูปเกมในครึ่งแรกมีปัญหาที่การผ่านบอลที่ช้าเกินไปจนไม่สามารถกดดันกองหลังของ CSKA ได้
เฟลไลนี่ ไม่ได้ลงเล่นตามเกม 5 มิดฟิลด์ของทีมเจ้าบ้าน เขาไม่เสียเวลาเคาะบอลอะไรมากมายเขาทำอะไรที่แตกต่างออกไปตามสไตล์ที่เขาถนัดและสร้างความกังวลให้กับเหล่าของหลังของ CSKA ได้เป็นอย่างดี แน่นอนว่าเหล่าแนวรับต้องเกลียดการรับมือกับนักเตะอย่าง เฟลไลนี่ แน่ๆ
ทุกสิ่งที่เขาได้ทำในเกมนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ หลายครั้งที่เขาลงมาเเละสร้างเกมที่แตกต่างได้ แม้ไม่ใช่นักเตะที่เทคนิคแพรวพราว แต่เฟลไลนี่ยังคงเป็นท่าไม้ตายของ หลุยส์ ฟาน กัล ได้เสมอ
2. เซย์ดู ดุมเบีย คือไวรัสสำหรับเมือง แมนเชสเตอร์ !
น้อยครั้งมากที่แฟนๆของ ยูไนเต็ด และ ซิตี้ จะมีความเห็นตรงกัน เเละเรื่องของ ดุมเบีย คือหนึ่งในนั้น ... ปีที่แล้ว ดุมเบีย ก็เป็นคนซัดประตูชัยให้ใส่ แมนฯ ซิตี้ และในการเจอกันกับเรือใบสีฟ้าในศึกแชมเปี้ยนส์ลีก ดุมเบีย จัดไปทั้งหมด 3 เมล็ด
แม้การซ้ำจุดโทษของเขาในเกมนี้จะไม่ได้ยากเย็นอะไรแต่นั่นก็แสดงให้เห็นว่าเขามีปฎิกิริยาที่ไวกว่า ฟิล โจนส์ และ เด เคอา นั่นช่วยให้การพังประตูของเขาดูง่ายดายเหลือเกิน ... หากจะพลิกไปดูสถิติของเขากับ ซีเอสเคเอ ก็ต้องบอกว่าไม่ธรรมดาเมื่อเจ้าตัวซัดไปแล้วถึง 84 ประตูจากการลงสนาม 129 เกม
ทั้งหมดทั้งมวลนี้ทำให้ ยูไนเต็ด ต้องจับตาเขาให้มากกว่าเดิมสำหรับเกมเลกที่ 2 ที่ ปีศาจเเดง จะเป็นฝ่ายได้เล่นในบ้านบ้าง
3. มาร์กซิยาล คือกองหน้า!
ในขณะที่ ยูไนเต็ด โดนกระหน่ำใส่ในช่วงครึ่งแรกนั้น อองโตนี่ มาร์กซิยาล รับบทบาทของปีกซ้าย ... เขามีปัญหาจากการโดนรุมประกบ มาริโอ เฟร์นันเดซ พร้อมจัดหนักเขาในทุกจังหวะ
แถมมาร์กซิยาลยังทำเสียจุดโทษด้วยการเเฮนด์บอลอีกด้วย เหมือนภาระการเลี้ยง , ยิง และ ช่วยเกมรับ อาจจะทำให้เขาดูยุ่งเหยิงจนเกินไป
เขากลับมาอีกครั้งในครึ่งหลังด้วยบทบาทกองหน้า อันโตนิโอ วาเลนเซีย บอมบ์เข้ามาจากทางฝั่งขวาจากนั้น มาร์กซิยาล ก็เห็นช่องว่างในเขตโทษและวิ่งเข้าไปจัดการกับบอลที่เปิดมาในตอนนั้น !
อาจด้วยสถานการณ์ของทีมในตอนนี้ที่ ปีกอย่าง เมมฟิส ก็ยังฟอร์มไม่เอาอ่าว แถม แอชลี่ย์ ยังก็ยังบาดเจ็บ จึงทำให้เขาต้องรับบทบาทปีกไปก่อน แต่ความเฉียบขาดเเละเอาตัวรอดของเขา ดูแล้วยังไงเขาก็เหมาะกับกองหน้ามากกว่า
4. ยูไนเต็ดขาดตัวชูโรง!
ก่อนกาลในอดีตนั้น ทุกๆเกม ยูไนเต็ด จะมีนักเตะที่เป็นเหมือนตัวชูโรงที่เมื่อได้ลงสนามแฟนบอลจะมีความคิดปิ๊งมาในหัวว่า "เกมนี้ไอหมอนี่ยิงแน่" ... คันโตน่า , ยอร์ค , โคล , ฟาน นิสเตอรอย , โรนัลโด้ คือนักเตะประเภทนั้น
ในตอนนี้ถึงแม้ มาร์กซิยาล จะเป็นดาวยิงที่พอไว้ใจได้แต่เขาก็ยังไม่เติบโตเต็มที่ และคงไม่ดีแน่ที่จะฝากทุกสิ่งทุกอย่างที่ต้องการไว้กับเด็กอายุ 19 ปี นั่นมันทำให้เขากดดันมากจนเกินไปซะเปล่า
เวย์น รูนี่ย์ ! เขาต้องดิ้นรนเเละเค้นฟอร์มที่เก่งที่สุดออกมาให้ได้ สิ่งที่เขาต้องทำคือการทำหน้าที่ตัวชี้วัดผลการเเข่งขันของทีม เหมือนที่ อาเกวโร่ ทำกับ แมนฯ ซิตี้ หรือ อเล็กซิส ซานเชส ที่เป็นตัวชูโรงของ อาร์เซน่อล
5. บ่นไปก็เท่านั้นโอกาสเข้ารอบยังเปิดกว้าง
3 เกมแรกของรอบแบ่งกลุ่มผ่านไป ตอนนี้ ยูไนเต็ด มีแต้มเท่ากับ ซีเอสเคเอ มอสโคว์ และตามหลังจ่าฝูงอย่าง โวล์ฟส์บวร์กส์ อยู่ 2 แต้ม ... นั่นถือว่าไม่ได้มากมายอะไรจนต้องเป็นกังวลกินไม่ได้นอนไม่หลับ
อย่างไรก็ตาม ยูไนเต็ด ยังต้องทุ่มเททั้งแรงกายและเเรงใจสำหรับเกมที่เหลือ รวมถึงเกมในบ้านที่มีให้เล่นอีก 2 เกมสำหรับรอบแบ่งกลุ่มนี้ ใน2สัปดาห์หน้าหากพวกเขาเก็บ 3 แต้มในการเจอกับ ซีเอสเคเอ นั่นจะส่งผลให้ ยูไนเต็ด อยู่ในตำแหน่งที่ดีสำหรับการเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายรายการนี้